โคมโรงงาน LED highbay | ราคาถูก พร้อมส่ง – Rawee Lighting

UGR และ Low Glare: คู่มือลดแสงแยงตาในโรงงาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ลด “แสงแยงตา” ในโรงงานได้อย่างไร?

ทำความเข้าใจเรื่อง UGR และเลนส์ Low Glare ในโคมไฟ LED

: กุญแจสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงาน

 

ในสภาพแวดล้อมการทำงานของโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า หรือพื้นที่ที่มีเพดานสูง มักมีความท้าทายในการจัดแสงสว่างที่มากกว่าแค่ “ความสว่างเพียงพอ” เพราะปัจจัยด้านคุณภาพของแสง โดยเฉพาะปัญหา “แสงแยงตา” (Glare) ถือเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพสายตา ประสิทธิภาพการทำงาน และความปลอดภัยของพนักงานอย่างรุนแรง

ในยุคที่ทุกธุรกิจมุ่งเน้นการใช้ โคมไฟ LED High Bay เพื่อประหยัดพลังงาน การเลือกโคมไฟที่ไม่มีการควบคุมแสงจ้าที่ดีพอ อาจทำให้การลงทุนเพื่อความประหยัด กลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพและประสิทธิภาพการผลิตที่ร้ายแรงกว่าเดิม

บทความนี้จะเจาะลึกถึงหลักการทางเทคนิคที่สำคัญที่สุดในการควบคุมแสงจ้า นั่นคือ ค่า UGR (Unified Glare Rating) พร้อมเผยโซลูชันจากเทคโนโลยี Low Glare Lens ของ Rawee Lighting ที่จะช่วยให้โรงงานของคุณได้รับทั้งความสว่างสูงสุดและการปกป้องสายตาที่เหนือกว่า


1. ภัยเงียบในโรงงาน: แสงแยงตา (Glare) คืออะไร และส่งผลกระทบอย่างไร?

 

หลายครั้งที่วิศวกรโรงงานมุ่งเน้นไปที่ค่าความสว่าง (Lux) เพียงอย่างเดียว จนละเลยผลกระทบของ “แสงจ้า” หรือ Glare ซึ่งเป็นความรู้สึกไม่สบายตาที่เกิดขึ้นเมื่อมีความแตกต่างของความสว่างระหว่างแหล่งกำเนิดแสง (โคมไฟ) กับสภาพแวดล้อมโดยรอบมากเกินไป

1.1 ประเภทของแสงแยงตา (Type of Glare)

 

  1. แสงแยงตาที่ทำให้ไม่สบายตา (Discomfort Glare):

    • เป็นความรู้สึกไม่สบายตา อึดอัด หรือรำคาญ ทำให้พนักงานต้องหรี่ตาหรือละสายตาจากงาน ส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้าทางสายตา (Eye Strain) และปวดศีรษะ แม้ว่าจะไม่ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงในทันที

  2. แสงแยงตาที่ทำให้สูญเสียการมองเห็น (Disability Glare):

    • เป็นแสงจ้าที่รุนแรงมาก จนทำให้ความสามารถในการมองเห็นรายละเอียดของวัตถุจริงลดลงอย่างมาก (ตาพร่ามัว) ทำให้มองเห็นวัตถุหรือรายละเอียดการทำงานได้ยากขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างมากในพื้นที่ทำงาน

1.2 ผลกระทบต่อธุรกิจและพนักงาน

 

  • ลดประสิทธิภาพการทำงาน: เมื่อต้องเพ่งสายตาหรือหรี่ตาเพื่อทำงานอย่างต่อเนื่อง ความเหนื่อยล้าทางสายตาจะสะสม ทำให้ทำงานได้ช้าลง เกิดความผิดพลาดมากขึ้นในการควบคุมคุณภาพหรือการประกอบชิ้นส่วน

  • เพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุ: ในพื้นที่ทำงานกับเครื่องจักรหนัก การมองเห็นที่พร่ามัวเพียงเสี้ยววินาทีจากแสงแยงตา สามารถนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้

  • ต้นทุนสุขภาพ: การจัดแสงสว่างที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง และปัญหาทางสายตา ซึ่งส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของพนักงาน

  • ผิดกฎหมายมาตรฐาน: หลายประเทศ รวมถึงมาตรฐานอุตสาหกรรมของไทย กำหนดให้ต้องมีการควบคุมคุณภาพแสงสว่าง เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพในการทำงาน


2. 🔑 กุญแจสำคัญในการควบคุม: ทำความเข้าใจค่า UGR (Unified Glare Rating)

 

ในการออกแบบระบบแสงสว่างในอาคารและโรงงาน ค่า UGR (Unified Glare Rating) คือมาตรวัดมาตรฐานสากลที่ใช้ประเมินระดับความไม่สบายตาที่เกิดจากแสงจ้าจากโคมไฟทั้งหมดในพื้นที่นั้นๆ

2.1 UGR คืออะไร?

 

UGR ไม่ได้วัดแค่ความสว่างของโคมไฟดวงใดดวงหนึ่ง แต่เป็นตัวเลขที่คำนวณจากสูตรซับซ้อนของ CIE (Commission Internationale de l’Éclairage) ซึ่งพิจารณาปัจจัยหลายอย่างพร้อมกัน:

  • ความสว่างของโคมไฟ (Luminance): ความเข้มแสงที่เปล่งออกมาจากโคมไฟ

  • ขนาดของโคมไฟที่มองเห็นได้: โคมไฟขนาดใหญ่จะส่งผลต่อ UGR น้อยกว่าโคมไฟขนาดเล็กแต่สว่างมาก

  • ตำแหน่งของโคมไฟ: มุมที่แสงตกกระทบต่อสายตาของผู้สังเกตการณ์

  • ความสว่างโดยรอบ (Background Luminance): ความสว่างของพื้น ผนัง และเพดาน ซึ่งเป็นค่าสะท้อนแสงของสภาพแวดล้อม (ยิ่งสภาพแวดล้อมมืดมาก UGR ยิ่งสูง)

UGR เป็นมาตราส่วนจาก 10 ถึง 30 โดยที่ค่าที่ต่ำกว่าบ่งบอกถึงแสงแยงตาที่น้อยกว่า และความสบายตาที่สูงกว่า

2.2 มาตรฐาน UGR ที่เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท

 

การเลือกค่า UGR ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากพื้นที่ทำงานแต่ละประเภทมีความต้องการความแม่นยำทางสายตาที่แตกต่างกันไป วิศวกรแสงสว่างจะใช้ตารางนี้เป็นแนวทางในการออกแบบ:

ค่า UGR สูงสุดที่ยอมรับได้ ความรู้สึกต่อสายตา ประเภทพื้นที่และลักษณะงานที่เหมาะสม
UGR ≤16 แทบไม่รู้สึกถึงแสงจ้า ห้องออกแบบทางวิศวกรรม, งานประกอบชิ้นส่วนละเอียดมาก, ห้องควบคุม
UGR  19 รู้สึกไม่สบายตาน้อยมาก สำนักงานทั่วไป, ห้องประชุม, ห้องเรียน, ห้องแล็บ
UGR  22 ระดับแสงแยงตาที่ยอมรับได้ โรงงานผลิตทั่วไป, คลังสินค้าขนาดกลาง, งานฝีมือ
UGR  25 แสงแยงตาที่รุนแรงขึ้น โรงงานอุตสาหกรรมหนัก, พื้นที่โล่ง, ลานโหลดสินค้า
UGR  28 แสงแยงตามาก / อึดอัด ทางเดิน, พื้นที่พักผ่อน, พื้นที่สาธารณะ (ไม่เหมาะกับพื้นที่ทำงาน)

Pain Point ที่ต้องระวัง: โรงงานหลายแห่งที่ติดตั้งโคมไฟ LED High Bay ที่เน้นแค่ความสว่าง (High Lumen) แต่ไม่มีการควบคุม UGR มักจะพบว่าค่า UGR ทะลุเกิน 25 หรือ 28 ซึ่งถือเป็นอันตรายต่อพนักงานอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ความสูงติดตั้งต่ำกว่า 8 เมตร


3. 🛡️ โซลูชัน Low Glare: เลนส์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการลด UGR ของโคมไฟ LED

 

การลดค่า UGR ในโคมไฟ LED High Bay ไม่ใช่เรื่องของการลดความสว่าง แต่เป็นการจัดการ “การกระจายแสง” ให้มีประสิทธิภาพและนุ่มนวลที่สุด โดยมีเทคโนโลยีหลักที่ใช้ในการผลิตโคมไฟคุณภาพสูง:

3.1 การออกแบบโครงสร้างและวัสดุ

 

  • แผ่นกระจายแสง (Diffusers): การใช้แผ่นกระจายแสงคุณภาพสูง เช่น โพลีคาร์บอเนต (PC) หรือโพลีเมทิลเมทาคริเลต (PMMA) ที่มีการออกแบบโครงสร้างจุลภาค (Micro-Structure) จะช่วยกระจายแสงจาก LED Chip ที่มีความเข้มข้นสูงให้แผ่ออกไปอย่างสม่ำเสมอ ลดจุดสว่างจ้า

  • Reflector และ Hoods พิเศษ: ในโคมไฟ High Bay บางรุ่น จะมีการออกแบบแผ่นสะท้อนแสงด้านใน (Reflector) หรือมีส่วนประกอบคล้ายหมวก (Hood) ที่ช่วยจำกัดมุมมองโดยตรงไปยัง LED Chip ทำให้แสงจ้าถูกบดบังจากมุมมองปกติของพนักงาน

3.2 เทคโนโลยี “Low Glare Lens” หัวใจสำคัญของ Rawee Lighting

 

โคมไฟ LED High Bay ของ Rawee Lighting มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเลนส์คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อลดแสงแยงตาโดยเฉพาะ โดยมีคุณสมบัติดังนี้:

  1. Anti-Glare Prismatic Lens: เลนส์ชนิดนี้มีโครงสร้างเป็นปริซึมขนาดเล็กจำนวนมากบนพื้นผิว ซึ่งทำหน้าที่ “หักเห” แสงให้กระจายตัวออกไปในมุมที่ต่างกัน แทนที่จะปล่อยให้แสงพุ่งตรงออกจาก Chip ในทิศทางเดียว ทำให้ความเข้มข้นของแสงที่พุ่งเข้าสู่สายตาลดลงอย่างเห็นได้ชัด

  2. การควบคุมมุมกระจายแสง (Beam Angle Control): การควบคุมมุมแสงให้แคบลง (เช่น 25° หรือ 60°) ไม่ได้มีจุดประสงค์แค่การส่องแสงได้ลึกขึ้น แต่ยังช่วยให้แสงถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการและลดการฟุ้งกระจายไปยังบริเวณโดยรอบที่อาจก่อให้เกิดแสงแยงตาได้

  3. การออกแบบ Light Engine: การจัดวาง LED Chip ให้เหมาะสม (เช่น การใช้ Chip หลายดวงในตำแหน่งที่ลึกเข้าไปในตัวโคม) ช่วยให้แหล่งกำเนิดแสงถูกซ่อนจากสายตาโดยตรง (Deep Recessed Light Source) ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลด UGR


4. ⚙️ การประยุกต์ใช้ UGR และ Low Glare ในการออกแบบระบบแสงสว่าง

 

การแก้ปัญหาแสงแยงตา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโคมไฟเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการออกแบบระบบแสงสว่างโดยรวม

4.1 การจำลองด้วยโปรแกรม DIALux

 

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านแสงสว่างอุตสาหกรรม Rawee Lighting ใช้โปรแกรมจำลองแสงสว่างมาตรฐานสากลอย่าง DIALux ในการออกแบบและคำนวณค่า UGR ล่วงหน้าก่อนการติดตั้งทุกครั้ง

  • การจำลองเสมือนจริง: วิศวกรจะนำไฟล์ข้อมูล IES (Photometric Data) ของโคมไฟ LED High Bay ที่มีคุณสมบัติ Low Glare เข้าสู่โปรแกรม เพื่อจำลองตำแหน่ง ความสูง และจำนวนโคมไฟที่เหมาะสม

  • การยืนยันค่า UGR: โปรแกรมจะคำนวณค่า UGR ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ทำงาน (Grid Point) ต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าการออกแบบแสงสว่างนั้นเป็นไปตามมาตรฐาน $\le$ 22 หรือ $\le$ 19 ตามลักษณะงานที่กำหนด

4.2 ปัจจัยร่วมที่ช่วยลด UGR ในพื้นที่จริง

 

  • ความสูงในการติดตั้ง: ยิ่งติดตั้งโคมไฟ High Bay สูงขึ้นเท่าไหร่ มุมมองโดยตรงไปยังแหล่งกำเนิดแสงก็จะลดลงตามไปด้วย ทำให้ UGR มีแนวโน้มลดลง

  • การเลือกอุณหภูมิสี (CCT): แม้ CCT จะไม่ส่งผลต่อค่า UGR โดยตรง แต่การใช้แสงสีขาวกลางวัน (Daylight 5000K-6500K) ที่สว่างจ้าเกินไป อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตามากกว่าแสงสีธรรมชาติ (Neutral White 4000K) ในบางพื้นที่

  • ความสะอาดของโคมไฟ: คราบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกบนเลนส์สามารถทำให้เกิดการหักเหแสงที่ผิดปกติและเพิ่มแสงจ้าได้ การบำรุงรักษาโคมไฟจึงเป็นสิ่งสำคัญ


5. 💰การลงทุนใน Low Glare: ประโยชน์ที่ไม่ใช่แค่ความสบายตา (ROI)

 

การเลือกโคมไฟ LED High Bay ที่มีคุณสมบัติ Low Glare ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว

  • เพิ่มผลผลิต (Productivity): พนักงานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแยงตาน้อย จะมีความสบายตามากขึ้น สามารถเพ่งสมาธิกับงานได้นานขึ้น ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

  • ลดความผิดพลาด (Defect Rate): งานที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง เช่น การตรวจสอบคุณภาพ (QC) การมองเห็นที่ชัดเจนปราศจากแสงจ้า จะช่วยลดความผิดพลาดในการผลิตและลดของเสีย

  • ลดต้นทุนด้านสุขภาพ (Healthcare Cost): ลดอาการปวดหัว ไมเกรน และความเมื่อยล้าทางสายตาของพนักงาน ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดงานหรือประสิทธิภาพการทำงานที่ตกต่ำ

  • การปฏิบัติตามกฎหมาย: มั่นใจได้ว่าระบบแสงสว่างในโรงงานของคุณเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่กฎหมายกำหนด


💡 สรุป: Rawee Lighting – ผู้นำด้านโซลูชันแสงสว่าง Low Glare สำหรับอุตสาหกรรม

 

ในฐานะโรงงานผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโดยตรง Rawee Lighting เข้าใจดีว่าโคมไฟสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้ต้องการแค่ความสว่างและการประหยัดพลังงาน แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสูงสุดด้านคุณภาพและความปลอดภัย

โคมไฟ LED High Bay คุณภาพสูงของ Rawee Lighting ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงค่า UGR และใช้เทคโนโลยี Low Glare Lens และ Driver คุณภาพสูง เพื่อให้มั่นใจว่า:

  1. UGR อยู่ในระดับที่เหมาะสม: เราใช้การคำนวณ DIALux เพื่อรับรองว่าแสงสว่างในพื้นที่การทำงานของคุณจะไม่เป็นอันตรายต่อสายตา (โดยทั่วไปควบคุม UGR ให้ $\le$ 22 หรือต่ำกว่าสำหรับงานละเอียด)

  2. ความทนทานสูงสุด: มาพร้อมการรับประกันที่ยาวนานและการบริการหลังการขายที่รวดเร็วจากโรงงานโดยตรง

  3. ประสิทธิภาพการลงทุน (ROI): คุณจะได้รับผลตอบแทนจากการประหยัดพลังงานและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและยั่งยืน

อย่าปล่อยให้ “แสงแยงตา” เป็นภัยเงียบที่ทำลายผลกำไรและสุขภาพของพนักงานในโรงงานของคุณ

Rawee Lighting ผู้นำด้านแสงสว่างที่คุณวางใจได้

highbay โคมโรงงาน Rawee Lighting

เมื่อพูดถึงโคมไฟคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ต้องนึกถึง Rawee Lighting หรือ บริษัท รวีไลท์ติ้ง กรุ๊ป จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 โดยมุ่งเน้นในการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายหลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน

จุดเด่นของ Rawee Lighting

    • คุณภาพเหนือระดับ: ผลิตภัณฑ์ผ่านมาตรฐาน ISO พร้อมการรับประกันคุณภาพ
    • นวัตกรรมล้ำสมัย: พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อความประหยัดและความปลอดภัย
    • บริการครบวงจร: ตั้งแต่การสำรวจหน้างาน ออกแบบแสง จนถึงการติดตั้ง
    • ทีมงานมืออาชีพ: วิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด

หากคุณกำลังมองหาโคมไฟที่มีทั้งคุณภาพ ประสิทธิภาพ และบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม Rawee Lighting คือคำตอบที่ดีที่สุด!

ติดต่อเรา

      • โทร: 02-2758854
      • Hotline: 092-3459448
      • Email: sales@rawee-lighting.com
      • ติดต่อผ่าน Line : @raweelighting   

แชร์บทความนี้